New Thai Version Foundation

“Your word is a lamp to my feet and a light to my path.” Psalms 119:105

 

ฉบับแปลใหม่

New Thai Version

Free Indeed: John and Proverbs, and the complete NTV Bible are available in Thailand at Kanok Bannasan in Bangkok and some bookstores throught Thailand and, available in the USA through our website.



NTV Books no longer in print
New version Bible translated English to Thai
 
New version Thai Bible
 
New version Thai Bible

Translated Bible to Thai

 




คติพจน์
“คำกล่าวของพระองค์เป็นเสมือนตะเกียงสำหรับเท้าของข้าพเจ้า และเป็นแสงส่องทางของข้าพเจ้า” สดุดี 119:105
ประวัติของ NTV
เริ่มจากปี ค.ศ. 1989 ผู้ก่อตั้งฉบับ NTV (ฉบับแปลใหม่) ได้มีโอกาสสนทนากับคนขับแท๊กซี่เป็นเวลานาน การสัญจรในกรุงเทพติดขัดทุกวัน ประกอบกับความร้อนระอุจากยานพาหนะในเมืองที่แออัด คนขับรถเริ่มระบายความรู้สึกที่ได้อดกลั้นอยู่ในใจ ถึงเรื่องราวส่วนตัวในเวลานั้น วิถีชีวิตและครอบครัวของเขาซึ่งดูเหมือนจะสิ้นหวัง เราบอกให้เขาทราบถึงข่าวประเสริฐของความรอดพ้นที่มนุษย์ทุกคนจะรับได้โดยผ่านพระเยซู เขาแสดงความซาบซึ้งด้วยใจจริงที่ว่า มีผู้ที่รักและห่วงใยเขามากถึงขนาดสิ้นชีวิตให้เขาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้ยิน เรารู้สึกเสียดายที่ไม่มีพระคัมภีร์ให้เขาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเจ้า เหตุการณ์อย่างเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นอีกบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เราแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย
NTV เป็นพระคัมภีร์ที่จัดทำขึ้นโดยบัณฑิตที่มีความรู้แขนงพระคัมภีร์โดยเฉพาะ ฉบับที่แปลจึงได้ใจความที่ตรงตามความหมาย ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาพระคัมภีร์อย่างถ่องแท้และสำหรับผู้ที่ไม่เคยอ่านพระคัมภีร์มาก่อน
ในปี ค.ศ. 1991 NTV เริ่มพิมพ์ฉบับลูกาและกิจการของอัครทูต ในนามว่า “สู่อิสระ” (ลูกา 4:18) จำนวนหลายหมื่นฉบับเพื่อแจกให้แก่ผู้สนใจโดยผ่านองค์การต่างๆ อาทิเช่น Campus Crusade For Christ และ Youth With A Mission ต่อมา NTV ได้พิมพ์ฉบับลูกา กิจการของอัครทูต และยอห์น รวมจำนวนที่พิมพ์แจกได้หลายหมื่นเล่ม กนกบรรณสารจัดพิมพ์ ทั้งแจกและจำหน่าย ในปี ค.ศ. 1998 กนกบรรณสารได้จัดพิมพ์และจำหน่ายพันธสัญญาใหม่ฉบับบริบูรณ์ ในนามว่า NTTV คริสตจักรหลายแห่งในประเทศไทยและต่างประเทศใช้ฉบับ NTTV และเป็นที่กล่าวกันว่า “ฉบับนี้อ่านแล้วเข้าใจง่าย” จึงเป็นที่นิยมของผู้อ่านทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนพระคัมภีร์หลายแห่งในประเทศ
เนื่องจากมีคนจำนวนไม่น้อยได้แสดงความสนใจที่จะอ่านพันธสัญญาเดิมของ NTTV รวมทั้งครูสอนพระคัมภีร์และศิษยาภิบาลบางท่านผู้เป็นที่นับถือในวงการคริสเตียน ในปี ค.ศ. 2012 เราจึงให้มีการจัดพิมพ์พันธสัญญาใหม่อีกครั้งโดยเพิ่มฉบับปฐมกาล สดุดี และสุภาษิต ในปีนี้ชื่อฉบับเปลี่ยนจาก NTTV เป็น NTV (ฉบับแปลใหม่)
นักศาสนศาสตร์และบรรณาธิการของคณะ NTV ได้ใช้เวลาหลายปีร่วมมือกันแก้ไขและยกร่างพันธสัญญาใหม่ ประกอบกับการแปลฉบับที่เหลือทั้งหมดในพันธสัญญาเดิม ทางคณะได้ปรับภาษาให้ทันกับยุคปัจจุบันและปรับบางจุดให้ได้ใจความชัดเจนยิ่งขึ้น นับว่าโครงการนี้มีปัจจัยสำคัญๆ ในการผลิตเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย เพราะเป้าหมายของเราคือ ต้องการให้ NTV สัมผัสส่วนลึกของจิตใจของคนไทยอันเป็นที่รักของเราต่อไปอีกเป็นเวลานับร้อยๆ ปี คณะผู้แปลพระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่ได้แปลพันธสัญญาเดิมเสร็จบริบูรณ์ในครึ่งหลังของปี 2020 หลังจากนั้นเป็นการจัดหน้าพระคัมภีร์ซึ่งมีขั้นตอนที่ใช้เวลานานกว่าที่ได้คาดไว้ ด้วยว่าภาษาไทยไม่เว้นวรรคระหว่างคำ จึงเป็นปัญหากับช่องไฟและไม่มีโปรแกรมแยกคำในภาษาไทย ในที่สุดทุกคำจึงถูกแยกด้วยมือ และช่วยให้จัดหน้าได้ดีขึ้น ปลายปี 2022 เราก็พร้อมให้ตีพิมพ์ ผู้สนใจอ่านพระคัมภีร์จะศึกษาได้ทั้งในรูปหนังสือ หรือดาวน์โหลดได้ทั้ง YouVersion และ Bible Gateway ผู้อ่านจะเห็นว่า ฉบับนี้มีข้อความชัดเจนเพราะเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย การใช้คำสม่ำเสมออย่างรัดกุม และมีใจความตรงตามความหมายของผู้บันทึกเหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์
“ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย แต่คำกล่าวของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่ตลอดกาล” อิสยาห์ 40:8
ประวัติของมูลนิธิและเป้าหมาย
ในปี ค.ศ. 2020 มูลนิธิถูกตั้งขึ้นในนาม มูลนิธิฉบับแปลใหม่
NTV เป็นที่นิยมในหมู่เยาวชน และอ่านเข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้สูงวัยด้วย เราตั้งใจให้คนไทยมีโอกาสได้อ่านและเรียนรู้จากพระคัมภีร์ พระคัมภีร์อุดมด้วยสติปัญญาซึ่งถูกถ่ายทอดให้แก่คนของพระองค์นานกว่า 4,000 ปีมาแล้ว เราต้องการให้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้มารู้จักพระเจ้าของพระคัมภีร์ผู้เปี่ยมด้วยความรัก เป้าหมายแรกของมูลนิธิคือ เน้นโครงการพระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่ คณะ NTV ประสงค์ที่จะแจกพระคัมภีร์ในหลายรูปแบบทั่วประเทศไทย โดยการประสานงานกับคริสตจักร โรงเรียน และองค์การศาสนาต่างๆ ประเทศไทยมีประชากรที่สูงวัยเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ก่อตั้ง NTV ทำธุระกิจเกี่ยวกับการดูแลคนชรามาเป็นเวลาหลายปี และมีโครงการที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของคนชราในประเทศไทย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอง
พระคัมภีร์ฉบับอื่นๆ แต่ละฉบับที่มีในประเทศไทย ได้แปลจากฉบับภาษาอังกฤษของแต่ละ version โดยเฉพาะ แต่ NTV ไม่ได้แปลตามรูปแบบนั้น คือเรายึดเอาภาษาฮีบรูและภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาต้นฉบับเป็นหลักในการตีความหมายจากการค้นคว้าคำเฉพาะ และให้ได้ความหมายแน่นอนที่สุด ไม่ต้องการให้ผิดพลาด NTV จึงเป็นพระคัมภีร์ที่แปลขึ้นใหม่อย่างแท้จริงสำหรับประเทศไทย
วิธีของการแปล
คณะ NTV มีคติพจน์ของการแปลคือ “ให้ได้ความหมายตรงกับคำศัพท์เท่าที่จะทำได้ และมีเสรีตีความหมายได้เมื่อจำเป็น” คติพจน์นี้อาจสรุปด้วยการเน้นหลักสำคัญ 3 ประการคือ
1. ให้ได้ความรู้สึกในข้อความของต้นฉบับอย่างชัดเจน และไม่เบี่ยงเบนไปจากนั้น
2. สื่อให้ทราบถึงความตั้งใจในส่วนลึกๆ ของผู้เขียนด้วยการเลือกคำที่เหมาะสม
3. แปลให้ได้ข้อความที่ลื่นไหลเพื่อสะท้อนถึงความรู้สึกของภาษาต้นฉบับ
บรรดาผู้บันทึกพระคัมภีร์ของต้นฉบับได้บันทึกด้วยภาษาที่ชัดเจน เป็นภาษาที่ผู้มีการศึกษาระดับสูงและคนสามัญเข้าใจได้โดยง่าย พระคัมภีร์มีไว้ให้ชนทุกชาติ ไม่ว่าจะมีพื้นเพมาจากไหนก็ตาม คณะผู้แปลได้ศึกษาค้นคว้าความหมายของคำศัพท์ด้วยความระมัดระวังทั้งในภาษาฮีบรูและภาษากรีก (คือภาษาต้นฉบับของพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่) เพื่อให้ได้ศัพท์ที่เหมาะสมและได้ความหมายอย่างที่บรรดาผู้บันทึกตั้งใจไว้ การสะกดชื่อเฉพาะในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่เป็นไปอย่างสม่ำเสมอเมื่อเป็นคนเดียวกันหรือสถานที่เดียวกัน ตัวอย่างเช่น คำว่า “Hittites” ในภาษาอังกฤษ ถ้าแปลคำนี้ตรงตัวว่า “คนฮิตไทต์” ก็จะไม่ถูกต้อง เพราะความจริงแล้ว ชื่อที่ลงท้ายด้วย “ites” หมายถึง “ชาว” NTV จึงแปลชื่อนี้ว่า “ชาวฮิต” และคำว่า “Amorites” จึงเป็น “ชาวอาโมร์” บางข้อในพันธสัญญาเดิมมีข้อความเหมือนกับข้อในพันธสัญญาใหม่ เราก็แปลให้เหมือนกัน แต่ในบางกรณีถ้าดูเผินๆ แล้ว ข้อความคล้ายกันมาก แต่ความจริงแล้วไม่เหมือนกันทีเดียว เราจึงแปลให้ได้ความหมายตรงกับภาษาเดิม
เราระวังไม่ให้เกิดความหละหลวมในการแปล เราไม่เพิ่มเติมเสริมคำโดยไม่จำเป็น เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อแปลให้ได้ความหมายใกล้เคียงและถูกต้องตามบริบท เราเน้นเรื่องความหมายมาก เรามีลีลาของภาษาเป็นเอกลักษณ์ของเรา และไม่ยึดหลักของการแปลตรงตัวให้เป็นคำต่อคำ เพราะแต่ละภาษาสื่อความเข้าใจได้ต่างกัน เราจึงต้องปรับคำเพื่อให้คนไทยเข้าใจสิ่งที่ผู้บันทึกต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจ
พันธสัญญาเดิมที่เป็นภาษาฮีบรูใช้คำเฉพาะสำหรับ “พระผู้เป็นเจ้า” ซึ่งใช้มากกว่า 5,500 ครั้ง คำนั้นเรียกว่าเป็น Tetragrammaton คือคำที่มีอักษรสี่ตัว ׳הוה (พระผู้เป็นเจ้า) ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอนว่า คำนี้ออกเสียงอย่างไร เพราะดั้งเดิมคนที่พูดภาษาฮีบรูทราบโดยอัตโนมัติว่าแต่ละคำควรออกเสียงอย่างไร โดยไม่ต้องมีสระกำกับ ผู้บันทึกต้นฉบับของพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูจึงไม่ใช้สระกำกับคำว่า ׳הוה คำนี้ไม่มีการออกเสียงตามจารีตประเพณี เพราะว่าชาวฮีบรูไม่ต้องการออกเสียงพระนามอันบริสุทธิ์ของพระเจ้า เมื่อเวลาผ่านไปนับพันๆ ปีต่อมา บรรดาผู้แปลพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูก็ได้เติมสระที่คำว่า ׳הוָה โดยใช้สระที่มาจากคำว่า אדנָ׳ (พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า) ผู้แปลของคณะ NTV ได้ใช้คำว่า “พระผู้เป็นเจ้า” สำหรับคำว่า אדנָ׳ และใช้คำว่า “พระผู้เป็นเจ้า” (เป็นตัวเอน) สำหรับคำว่า ׳הוָה
เราหวังว่าจะเป็นพระพรแก่ทุกท่านที่ได้อ่านพระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่ นักศึกษาที่จริงจังกับการอ่านพระคัมภีร์จะเข้าใจว่าฉบับแปลใหม่นี้ มีความระมัดระวังในเรื่องความหมายที่ถูกต้องและอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย ท่านจะอ่านพระคัมภีร์เองได้โดยไม่ต้องให้ใครอธิบายความหมายให้ท่านอีกต่อหนึ่ง เพราะมีความชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว พระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่จะหาได้ที่กนกบรรณสารและตามร้านขายหนังสือทั่วไปในประเทศไทย
ขอคำกล่าวของพระเจ้าเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตท่าน